Browse By

Monthly Archives: September 2025

เมอร์ฟี่ – รูนี่ย์ จวกการเปลี่ยนตัวของมาเรสก้า หลัง เชลซี พ่ายแมนฯ ยูไนเต็ด 1-2

ศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กลายเป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่ “เชลซี” ต้องกลับไปทบทวนอย่างหนัก หลังจากบุกไปพ่าย “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” 1-2 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด แม้จะครองบอลได้เหนือกว่า แต่กลับเสียการควบคุมเกมในช่วงท้ายจนไม่สามารถกลับมาได้ สิ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดหลังเกม ไม่ใช่แค่ฟอร์มการเล่นของนักเตะหรือจังหวะพลาดในแนวรับ แต่คือ การตัดสินใจเปลี่ยนตัวของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ผู้จัดการทีมเชลซี ที่เลือกถอดผู้เล่นตัวรุกออกในช่วงที่ทีมต้องการประตูตีเสมอ สองอดีตสตาร์พรีเมียร์ลีกอย่าง แดนนี่ เมอร์ฟี่ และ เวย์น รูนี่ย์ จึงออกมาวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา โดยมองว่าการตัดสินใจของมาเรสก้าในจังหวะสำคัญ “ไม่ตอบโจทย์สถานการณ์” และ “ขาดความกล้าในการเสี่ยง” ทั้งที่ทีมยังมีโอกาสกลับมาสู่เกมได้ เหตุการณ์ในเกม: เมื่อแท็กติกกลับกลายเป็นจุดเปลี่ยน เชลซีภายใต้การคุมทีมของมาเรสก้า เริ่มเกมได้อย่างมั่นใจ ใช้การครองบอลจากแดนหลัง และพยายามเปิดพื้นที่ทางฝั่งซ้ายให้ โคล พาล์มเมอร์ ได้สร้างสรรค์เกม แต่หลังจากโดน แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงนำตั้งแต่ครึ่งแรก

โรเบิร์ต ซานเชซ ขอโทษแฟนเชลซีหลังโดนไล่ออกตั้งแต่ต้นเกม

เกมพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นค่ำคืนที่น่าผิดหวังของแฟนบอลเชลซีทั่วโลก เมื่อ โรเบิร์ต ซานเชซ (Robert Sánchez) ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม ถูกไล่ออกจากสนามตั้งแต่ต้นเกม หลังออกมาตัดบอลพลาดจนต้องฟาวล์คู่แข่งนอกเขตโทษ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ “สิงโตน้ำเงินคราม” ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 20 และสุดท้ายทีมก็ไม่สามารถต้านแรงกดดันจากคู่แข่งได้ พ่ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย แต่สิ่งที่แฟนบอลให้ความสนใจมากที่สุดไม่ใช่ผลการแข่งขัน หากคือ “คำขอโทษ” จากเจ้าตัวที่โพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียภายหลังจบเกม “ผมต้องขอโทษเพื่อนร่วมทีม สตาฟฟ์โค้ช และแฟนบอลทุกคนสำหรับความผิดพลาดในคืนนี้ ผมรับผิดชอบอย่างเต็มที่และจะกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม” ข้อความสั้น ๆ นี้สะท้อนถึงความสำนึกและความเป็นมืออาชีพของนักเตะที่เข้าใจว่าความผิดพลาดในเกมระดับสูงไม่ใช่เรื่องเล็ก และในขณะเดียวกัน มันยังกลายเป็นกระจกสะท้อนความกดดันที่ผู้รักษาประตูระดับพรีเมียร์ลีกต้องเผชิญทุกสัปดาห์ เส้นทางของซานเชซ: จากเด็กสเปนสู่มือหนึ่งของเชลซี โรเบิร์ต ซานเชซ เกิดที่เมืองการ์ตาเฮนา ประเทศสเปน ก่อนจะย้ายมาอยู่ในอังกฤษตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี เขาเริ่มต้นในระบบเยาวชนของไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน และค่อย

ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ พร้อมทุ่ม 50 ล้านปอนด์ล่าคอเนอร์ กัลลาเกอร์

สิ่งที่ทำให้ข่าวของ “ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์” กับ “คอเนอร์ กัลลาเกอร์” กำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง ไม่ใช่แค่เพราะค่าตัวระดับ 50 ล้านปอนด์ เท่านั้น ทว่าเพราะนี่คือดีลที่สะท้อนแนวทางใหม่ฟุตบอลของทีมไก่เดือยทองในยุคของ แองจ์ ปอสเตโคกลู อย่างชัดเจน สเปอร์สในวันนี้ไม่ใช่ทีมที่พอใจกับการเป็น “ทีมใกล้เคียงความสำเร็จ” อีกต่อไป พวกเขาต้องการขยับขึ้นไปยืนในจุดที่ท้าทายแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างจริงจัง และหนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญของแผนนั้นคือ “กัลลาเกอร์” — มิดฟิลด์พลังงานสูงที่กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของเชลซีในยุคเปลี่ยนผ่าน คอเนอร์ กัลลาเกอร์: จากเด็กอะคาเดมีสู่หัวใจแห่งสแตมฟอร์ด บริดจ์ กัลลาเกอร์เป็นผลผลิตโดยตรงจากอะคาเดมีของเชลซี เขาเติบโตจากรุ่นเยาวชนจนก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ด้วยความมุ่งมั่นและทัศนคติที่ยอดเยี่ยม ตั้งแต่ช่วงยืมตัวกับชาร์ลตัน, เวสต์บรอมวิช และคริสตัล พาเลซ เขาแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติเด่นที่ชัดเจน — ความขยัน, ความดุดัน, และความเข้าใจในเกมที่เหนือวัย ฤดูกาล 2021/22 กับพาเลซคือจุดเปลี่ยนสำคัญ เขากลายเป็นหนึ่งในกองกลางที่โดดเด่นที่สุดของพรีเมียร์ลีกในเวลานั้น จนได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของสโมสร และถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เป็นครั้งแรก หลังจากนั้นเขากลับมาที่เชลซี

บรูโน่ แฟร์นันด์ส: กัปตันผู้สร้างประวัติศาสตร์ ยิงครบ 100 ประตู

ค่ำคืนที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เมื่อ “บรูโน่ แฟร์นันด์ส” (Bruno Fernandes) กัปตันทีมคนปัจจุบันของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงประตูครบ 100 ลูกให้กับสโมสร กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานในยุคใหม่ของ “ปีศาจแดง” ที่ยังคงเดินหน้าสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมต่อเนื่อง เสียงเชียร์จากแฟนบอลกว่า 70,000 ชีวิตกึกก้องไปทั่วสนาม เมื่อจังหวะยิงสุดเฉียบของเขาพาทีมคว้าชัยชนะ พร้อมสร้างสถิติที่ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับกองกลางตัวรุกคนหนึ่งในพรีเมียร์ลีก บรูโน่ไม่ได้เพียงแค่ทำหน้าที่ในสนามเท่านั้น แต่เขายังแบกรับความหวัง ความเชื่อ และจิตวิญญาณของสโมสรอันยิ่งใหญ่นี้ไว้บนบ่าทุกครั้งที่สวมปลอกแขนกัปตัน จากลิสบอนสู่แมนเชสเตอร์: เส้นทางแห่งความมุ่งมั่นของบรูโน่ ย้อนกลับไปในปี 2020 บรูโน่ แฟร์นันด์ส ถูกซื้อตัวจากสปอร์ติง ลิสบอน ด้วยค่าตัวราว 55 ล้านปอนด์ ซึ่งในเวลานั้น หลายคนยังสงสัยว่าเขาจะปรับตัวกับพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่ แต่เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังเปิดตัว เขาก็พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณภาพและความเฉียบคมทั้งในจังหวะจ่ายบอลและการยิงประตู บรูโน่กลายเป็นตัวขับเคลื่อนเกมรุกที่ขาดไม่ได้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และกลายเป็นศูนย์กลางในระบบการเล่นของทีมในยุคหลังเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ด้วยสไตล์การเล่นที่ผสมระหว่างความคิดสร้างสรรค์และพลังแห่งผู้นำ

มาร์ก เกฮี กับความฝันในถิ่นเบร์นาเบว

ข่าวลือเกี่ยวกับการย้ายทีมของนักเตะชื่อดังมักสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อชื่อที่ปรากฏบนหน้าสื่อคือ “มาร์ก เกฮี” (Marc Guéhi) กองหลังจอมแกร่งของทีมชาติอังกฤษและสโมสรคริสตัล พาเลซ ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าตัวได้ แจ้งกับที่ปรึกษาส่วนตัวว่า มีความตั้งใจย้ายไปค้าแข้งกับเรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา ข่าวนี้ไม่ได้เป็นเพียงกระแสลอย ๆ แต่สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางที่ “ราชันชุดขาว” กำลังวางแผนเสริมทัพในอนาคต เพื่อสร้างแนวรับแห่งอนาคตคู่กับ เอแดร์ มิลิเตา และอันโตนิโอ รูดิเกอร์ ซึ่งต่างมีบทบาทสำคัญในยุคปัจจุบัน การย้ายทีมครั้งนี้อาจเป็นหนึ่งในดีลที่เปลี่ยนแปลงเส้นทางอาชีพของเกฮี และเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ในแนวรับของเรอัล มาดริด เส้นทางของมาร์ก เกฮี: จากเด็กอะคาเดมีเชลซี สู่กำแพงเหล็กของพาเลซ มาร์ก เกฮี เกิดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ปี 2000 ที่เมืองอาบิดจาน ประเทศโกตดิวัวร์ ก่อนจะย้ายมาเติบโตในอังกฤษตั้งแต่วัยเด็ก เขาเข้าร่วมระบบเยาวชนของเชลซีตั้งแต่อายุเพียง 8 ปี และเป็นหนึ่งในกองหลังที่ถูกจับตามองมากที่สุดในรุ่นเดียวกัน

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ยุคใหม่ในมือกุนซือผู้มุ่งมั่น

ในโลกของฟุตบอล ไม่มีอะไรแน่นอนมากไปกว่าความไม่แน่นอนของผลงานในสนาม “น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์” สโมสรเก่าแก่แห่งอังกฤษที่มีประวัติอันยาวนาน เคยสร้างความยิ่งใหญ่ในยุคของ ไบรอัน คลัฟ ผู้พาทีมคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 2 สมัยติดต่อกัน แต่ในปัจจุบัน ฟอเรสต์กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่ยากลำบาก แม้จะยังไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ในฤดูกาลนี้ แต่คำพูดของกุนซือคนปัจจุบันที่ว่า “ทีมของเราดูแตกต่างจากเดิมแล้ว” ได้จุดประกายความหวังให้กับแฟนบอลและนักวิเคราะห์หลายคนว่า นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง ความท้าทายที่ไม่ง่าย: การสร้างทีมใหม่ในพรีเมียร์ลีก พรีเมียร์ลีกไม่ใช่ลีกที่ให้อภัยใครได้ง่าย โดยเฉพาะกับสโมสรที่มีขนาดไม่ใหญ่และกำลังอยู่ระหว่างการสร้างทีมใหม่อย่าง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ การอยู่รอดในลีกสูงสุดของอังกฤษต้องใช้ทั้งประสบการณ์ การบริหารจัดการ และระบบที่มีเสถียรภาพ ฟอเรสต์เพิ่งผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดนักเตะ ทั้งในส่วนของการเสริมทัพและการปรับระบบการเล่น กุนซือคนใหม่ของทีมได้เข้ามาพร้อมกับแนวคิดที่ชัดเจนว่า “ต้องการให้ฟอเรสต์เล่นฟุตบอลที่กล้าหาญ มีระเบียบ และมีเอกลักษณ์” แต่ในความเป็นจริง การนำแนวคิดไปสู่ผลลัพธ์ในสนามไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อทีมต้องเจอกับคู่แข่งระดับหัวตารางอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล หรือ อาร์เซน่อล ที่มีขุมกำลังเหนือกว่าแทบทุกมิติ กุนซือคนใหม่กับแนวคิด “เราดูแตกต่างจากเดิมแล้ว”